Robowealth shaping the Thai wealth-tech ecosystem, using AI for investment analysis

Robowealth shaping the Thai wealth-tech ecosystem, using AI for investment analysis

Robowealth shaping the Thai wealth-tech ecosystem, using AI for investment analysis “Digital Asset” is one of the fastest-growing forms of investment with its high return potential and high risk as well as being complicated to understand to those without technology or investment background. This problem becomes the inspiration for developing “Robo-advisor,” an automatic investment planner […]

Robowealth shaping the Thai wealth-tech ecosystem, using AI for investment analysis

“Digital Asset” is one of the fastest-growing forms of investment with its high return potential and high risk as well as being complicated to understand to those without technology or investment background.
This problem becomes the inspiration for developing “Robo-advisor,” an automatic investment planner and portfolio manager powered by artificial intelligence.
“Chonladet Khemarattana,” the Robowealth group CEO, describes Robo-advisor as a combination of algorithms, a large amount of information, AI, and investment advisory to achieve automatic investment planning, serving as a tool to investors to invest easily and suitably.

odini platform was launched in mid-2018 and became Thailand’s first Robo-advisor, meeting the general population’s needs who look to invest automatically with the desired level of risk. And Investors can invest gradually or dollar-cost averaging through 5 portfolios of different risk levels and target returns, ranging from 4 to 12% annually, as an option for a long-term investment that beats inflation and interests.

odini BLACK platform invests using Global Asset Allocation, focusing on long-term portfolio growth to meet the needs of “Mass Affluent.” This platform currently has 332,141 active accounts.
FinVest platform launched during year-end 2020 in collaboration with Kasikorn Bank and Lu International (a large fintech company with 123,143 active accounts), providing an exciting fund selection service in the form of “Thematic Investment” a focus on easy-to-digest content. ASCEND WEALTH, an investment brokerage company under True group, collaborated with Robowealth to allow purchase of mutual funds through the True money wallet application (485,374 active accounts).
The company derives its income brokerage fees, including front-end and management fees, and via fee-sharing from partnered funds. For the B2B side, incomes are derived from development fees, maintenance fees, and profit-sharing.

Chonladet views the wealth-tech market as highly competitive but has room for growth and has recently lacked startups. The B2C market, aside from banking, such as insurance, retails, telecom, are starting to look for investment platforms to introduce to their customer base.

“From over 70 million people in Thailand, there are only 2 million funds/equity accounts which are less than 5% of the total population, but there are several hundred thousand digital assets investors. This is due to Thai people’s tendency to prefer short-term trading. However, monthly DCA investments are still relatively low. Developed countries have this ratio at about 50-50 whereas developed countries have around 10%, showing room for growth.”

Robowealth’s advantage over the international platform, which is primarily technology-based, is that they lack the licensing, business, and language knowledge. Another benefit comes from Robowealth’s co-founders, who are always active and adaptive when dealing, allowing for fast growth.

FinVest’s business plan in the future includes a new feature that would allow users to purchase offshore funds directly completed with real-time currency exchange. As for odini, many new features are to be launched, mainly relating to portfolio and financial planning, focusing on retirement. In addition, a new application is also under development in collaboration with a new partner, along with plans to expand to Vietnam and Indonesia.

Mr.Chonladet views the current investment situation as recovering, exhibiting a “K” letter pattern after the covid-19 pandemic has caused the global market to fall. This is an excellent chance for investors to collect stocks with solid fundamentals and realize the profits once the market has recovered.

“Robowealth’s customer will benefit from Robo-advisor’s diversification to US and China to generate returns as technology stocks benefit from the lockdown. Wealth business will also be benefited in the long term from the digital transformation, making it a big opportunity for robowealth to meet the new demands.”

Lastly, Mr.Chonladet states that everyone in the industry must band together to create the Thai wealth-tech ecosystem since less than 5% of the population of 70 million invest through funds and equity. As the president of Fintech society, his mission is to promote 1. constant development of Fintech industry 2. development of centralized API 3. solve the lack of Fintech human resources 4. commencing international roadshows to allow foreign investors to learn more about Thai startups as the Fintech society.

 

 

“สินทรัพย์ดิจิทัล” นับเป็นการลงทุนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในขณะนี้ มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมาก ทั้งยังเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยากสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านการลงทุนรวมถึงเทคโนโลยี 

 

จุดปัญหานี้กลายเป็นเหตุผลให้กับการพัฒนา Robo-advisor บริการวางแผนการลงทุน และจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ ที่มีปัญญาประดิษฐ์หรือสมองกลอยู่เบื้องหลัง

 

“ชลเดช เขมะรัตนา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท โรโบเวลธ์กรุ๊ป จำกัด อธิบายว่า Robo-advisor ประกอบด้วยการนำอัลกอริทึม การจัดการข้อมูลจำนวนมาก และสมองกลมาใช้ร่วมกับการให้คำปรึกษาด้านการเงิน เพื่อวางแผนการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินประเภทต่างๆ แบบอัตโนมัติ เสมือนเป็นเครื่องมือช่วยนักลงทุนวิเคราะห์บริหารจัดการการลงทุนที่ง่ายและเหมาะสม

 

แพลตฟอร์ม odini เป็น Robo-advisor รายแรกในประเทศไทย เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2561 ตอบโจทย์กลุ่มคนทั่วไปที่ต้องการเข้าถึงการลงทุนในกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ พร้อมให้อิสระในการเลือกลงทุนเป็นเงินก้อน หรือทยอยลงทุนเป็นรายเดือน ผ่าน 5 พอร์ตความเสี่ยง และผลตอบแทนที่เลือกได้ โดยเริ่มต้นผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 4-12% ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกของการออมเงินระยะยาวกับการลงทุนที่ชนะเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยเงินฝาก

 

odini BLACK แพลตฟอร์มการลงทุนแบบ Global Asset Allocation ที่เน้นการเติบโตของพอร์ตการลงทุนเป็นหลัก โดยจะเป็นการลงทุนผ่านกองทุนทั่วโลกซึ่งเน้นการเติบโตในระยะยาว เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่ม Mass Affluent ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 332,141 บัญชี

 

ส่วนแพลตฟอร์ม FinVest เปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2563 ให้บริการคัดเลือกกองทุนรวมที่น่าสนใจ ในรูปแบบ Thematic Investment เน้นการให้ข้อมูลที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย โดยร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยและ Lu International บริษัทฟินเทครายใหญ่ ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 123,143 บัญชี และ ASCEND WEALTH เป็นบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ภายใต้กลุ่มทรู โดยโรโบเวลธ์ได้ทำระบบในส่วนของ Mutual Fund ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถซื้อกองทุนรวมผ่านแอพทรูมันนี่วอลเล็ต ปัจจุบันมีผู้ใช้งานถึง 485,374 บัญชี

 

รายได้ของบริษัทมาจากค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายกองทุนรวม ได้แก่ ค่าธรรมเนียม front-end และ ค่าธรรมเนียมการจัดการ อีกทั้งส่วนแบ่งรายได้ค่าธรรมเนียมนายหน้ากองทุนรวมจากพันธมิตร ส่วนฝั่ง B2B ได้แก่ ค่าพัฒนา ค่าบำรุงรักษา และส่วนแบ่งรายได้

 

ภาพรวมตลาดเวลธ์เทค ชลเดช มองว่า เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่ช่วงหลังที่ไม่ค่อยมีผู้เล่นรายใหม่ที่เป็นสตาร์ทอัพเข้ามา ทั้งนี้การเติบโตยังไปได้ ส่วนตลาด B2C นอกจากกลุ่มธนาคารก็ยังมีอุตสาหกรรมอื่น อาทิ ประกัน รีเทล โทรคมนาคม ที่เริ่มมองหาการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการลงทุน นำเสนอให้กับฐานลูกค้าของตนเอง

 

“เมื่อเทียบกับประชากรในไทยที่มีกว่า 70 ล้านคน มีบัญชีที่ซื้อกองทุนและหุ้นเพียง 2 ล้านบัญชี ซึ่งไม่ถึง 5% ของจำนวนประชากรทั้งหมด แต่มีนักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนหลายแสนคน เนื่องจากคนไทยค่อนข้างชอบเก็งกำไร แต่การลงทุนแบบ DCA ทุกเดือน เป็นระยะยาวยังมีน้อยนัก ส่วนในประเทศที่พัฒนาแล้วสัดส่วนคนลงทุนครึ่งต่อเครื่อง และประเทศที่กำลังพัฒนาสัดส่วนจะอยู่ที่ 10% ดังนั้น ตลาดนี้จึงยังคงมีช่องว่าง”

 

ขณะที่โรโบเวลธ์ได้เปรียบแพลตฟอร์มต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงบริษัทเทคโนโลยี ไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องไลเซ่นส์ หรือการประกอบธุรกิจ และที่สำคัญเมื่อเป็นด้านเทคโนโลยีในเรื่องของภาษามีส่วนที่เป็นข้อจำกัด อีกข้อดีหนึ่งคือ เนื่องจากโรโบเวลธ์เป็น co-founder จึงมีการแอคทีพตลอดเวลา เมื่อมีดีลจึงเร็วและยืดหยุ่นสูง ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้โรโบเวลธ์โตได้ไว

 

สำหรับแผนธุรกิจช่วงกลางปีในส่วนของ FinVest มีแผนจะเปิดให้นักลงทุนสามารถซื้อกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง ทั้งแลกเปลี่ยนอัตราได้แบบเรียลไทม์ ส่วน odini จะมีการลอนซ์หลากหลายฟีเจอร์ทั้งในแง่ของ portfolio และ financial planning ที่จะเน้นเรื่องของแผนเกษียณ รวมถึงแอพพลิเคชั่นใหม่ที่กำลังพัฒนาร่วมกับพาร์ทเนอร์ ทั้งยังมีแผนขยายตลาดไปยังเวียดนาม และอินโดนีเซียในอนาคต

 

บรรยากาศการลงทุนครึ่งปีหลัง ชลเดช ให้มุมมองว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด ตลาดทุนช่วง มี.ค.2563 หุ้นทั้งโลกตก แต่พอหลังจากเดือน มี.ค. การฟื้นตัวอยู่ในรูปแบบตัวอักษร K แบบชัดเจน แต่สำหรับนักลงทุนเป็นโอกาสดีในการเข้าไปเก็บสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งไว้ในพอร์ต เพื่อรอทำกำไรเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวในอนาคต

 

“ลูกค้าของโรโบเวลธ์จะได้ประโยชน์จากการที่ Robo-advisor กระจายเงินลงทุนสัดส่วนสูงที่สุดอยู่ในประเทศจีนและอเมริกา ซึ่งให้ผลตอบแทนได้ดี เพราะมีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้ประโยชน์จากการล็อกดาวน์ ทั้งเป็นผลดีในระยะยาวกับธุรกิจด้านเวลธ์ ส่งผลให้สถาบันการเงินมีความตื่นตัวในเรื่องดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น นับเป็นโอกาสสำคัญของโรโบเวลธ์เช่นกันที่จะสนองความต้องการดังกล่าว”

 

สุดท้าย ชลเดช กล่าวว่า ทุกคนในวงการจะต้องร่วมกันสร้างอีโคซิสเต็มเวลธ์เทคไทย เพราะในขณะนี้ประเทศไทยมีนักลงทุนที่ลงทุนผ่านกองทุนรวมและตลาดหลักทรัพย์ เพียงไม่ถึง 5% จากจำนวนประชากรกว่า 70 ล้านคนทั่วประเทศ ทั้งนี้ ในฐานะนายกสมาคมฟินเทคฯ ได้มีภารกิจผลักดันให้ 1.วงการฟินเทคพัฒนาต่อเนื่อง 2.พัฒนา API กลาง 3.แก้ปัญหาด้านบุคลากรฟินเทคที่ขาดแคลน 4.เดินหน้าโรดโชว์ในต่างประเทศ เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศรู้จักสตาร์ทอัพไทยในฐานะกลุ่มฟินเทค

 

Credit : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/952447?fbclid=IwAR1rSaoko3HNQ0V_2e3XpVBGCcg3bX2r5luwqSKHxQUKX6jgMih0rJ6e04E