Space tour, futuristic attraction!
How much is this business worth investing?
After Jeff Bezos announced his resignation as CEO of Amazon to enjoy space travel with the New Shepard rocket of Blue Origin on 20th July 2021, aerospace companies have begun open booking space tours. Even if covid crisis blocks you from traveling abroad, a typical billionaire starts looking at space travel as an alternative.
The space tourism business started ten years ago, but technological advancement has just made it trendy. Moreover, space tourism is also becoming more reliable and safe. So billionaires are seeking to experience space travel for the first time in their lives.
The first billionaire to travel to space, Charles Simonyi, who developed the first version of Microsoft Office, was the only person to make it twice between 2007 and 2009. He said that “As you travel, every 90 minutes, you see spring, autumn, arctic, tropics, night and day.”
The next billionaire Jeff Bezos, who recently stepped down from CEO of Amazon, has announced that he and his brother Mark will be a passenger on the space flight on 20th July.
Richard Branson, the famous billionaire, has completed the flight test as well. Sooner, Virgin Galactic will begin offering space travel as a commercial service. More than 600 passengers, including actresses Angelina Jolie and Tom Hanks, have already booked their flights.
If we consider investing in the space tourism business, there are many options right now—whether it’s buying your planetary name, buying shares of companies related to space, rockets, the internet, and the digital coin.
Today, Robowealth takes a look at the growth of this industry in the past ten years. How has it been?
From 2009 to 2019, the global space industry turnover increased from $216 billion to $423 billion, representing 95.66% (Statista, Aug 2020). In 2040 space industry is expected to get more than $1 trillion in revenue. (Haver Analytics, Morgan Stanley Research forecasts). These industry revenues come from Consumer TV, TV signals, internet networks, mobile satellite services. telephone signal, satellite launch, satellites, rocket production, etc. These products tend to increase in the future. We see news that Virgin Galactic has secured reservations from more than 600 space tours seats, including celebrities. The ticket of 250,000 US dollars per seat is surely affordable by a billionaire.
Growth opportunities and attractive investment in the space market
1. Utilizing satellites for the internet. SpaceX has allowed users to experiment using the internet from the satellite network. The internet has a download speed of 50-150 megabytes per second with a delay of just 20-40 billiseconds. Not bad, right?
2. Many companies have started producing spacecraft targeting billionaires as potential buyers.
3. SpaceX has a space settlement goal. The company sent people to the moon and Mars. The plan is to habitat Mars by 2024. Blue Origin aims to build rockets that can carry everyone to space, including traveling to the moon or Mars.
4. Elon Musk’s policy is to create a cryptocurrency “Musk coin,” which will become money for humans who would like to migrate to Mars or other planets.
Let’s see in the infographic below. How much is the space travel ticket?
Sources: Morgan Stanley, Forbes, Statista, Bloomberg, Robbreport, BusinessInsider, CNBC, SpaceX, Barrons, The Wall Street Journal.
ทัวร์อวกาศ แหล่งท่องเที่ยวอนาคต ธุรกิจนี้น่าลงทุนขนาดไหน ?
ไม่นานมานี้หลังจาก Jeff Bezos ประกาศลาออกจากตำแหน่ง CEO Amazon เพื่อไปท่องอวกาศกับจรวด New Shepard ของ Blue Origin ในวันอังคารที่ 20 นี้ เห็นได้เลยว่าหลาย ๆ บริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับอวกาศเริ่มเปิดจองทัวร์ท่องเที่ยวอวกาศกันแล้ว แม้ว่าจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ เพราะการระบาดของโควิด ทำให้ลูกค้ากระเป๋าหนัก เริ่มมองถึงการไปเที่ยวอวกาศเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
ธุรกิจท่องเที่ยวอวกาศได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่เป็นเทรนด์เท่าปัจจุบัน เนื่องจากเทคโนโลยีมีการพัฒนาให้สมบรูณ์มากขึ้น การท่องเที่ยวอวกาศจึงมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากขึ้นด้วย ทำให้เศรษฐีจากทั่วโลกต่างก็แสวงหาประสบการณ์การท่องเที่ยวบนอวกาศครั้งแรกในชีวิตกันทั้งนั้น
เศรษฐีคนแรกที่เดินทางไปอวกาศ คือ Charles Simonyi ผู้พัฒนา Microsoft Office เวอร์ชั่นแรก เป็นเพียงคนเดียวที่เดินทางถึง 2 ครั้ง ในช่วงปี 2007 – 2009 เขาได้เล่าว่า “ขณะเดินทางไปทุก ๆ 90 นาที คุณจะเห็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง ขั้วโลกเหนือ เขตร้อน กลางคืน กลางวัน”
เศรษฐีคนต่อมา Jeff Bezos ที่พึ่งประกาศลาออกจากตำแหน่ง CEO Amazon ไป ได้ออกมาประกาศว่าเขาและ Mark น้องชายจะเป็นผู้โดยสารในเที่ยวบินอวกาศ ซึ่งจะออกเดินทางในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้
และเศรษฐี Richard Branson ที่ได้ทดสอบเที่ยวบินเสร็จสิ้นแล้ว และหลังจากนี้ทางบริษัท Virgin Galactic จะเริ่มให้บริการในเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีผู้โดยสารกว่า 600 ราย ได้แก่ นักแสดง Angelina Jolie และ Tom Hanks ได้จองเที่ยวบินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หากพูดถึงการลงทุนในธุรกิจอวกาศก็มีการลงทุนที่หลากหลายมากมายในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อชื่อดาวเคราะห์เป็นของตัวเอง การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ จรวด อินเทอร์เน็ตยุคใหม่ เหรียญดิจิทัล “มาร์สคอยน์” ที่ในอนาคตอาจจะใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนบนดาวเคราะห์ต่าง ๆ และอีกหลากหลายอย่างที่เราไม่รู้ และเกิดขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ
วันนี้ Robowealth เลยพามาดู การเติบโตของอุตสาหกรรมนี้กันว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรกันบ้าง ?
ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2019 มูลค่าการซื้อขายของอุตสาหกรรมอวกาศทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 2.16 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 4.23 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 95.66% (Statista, Aug 2020) และคาดการณ์ว่าในปี 2040 อุตสาหกรรมอวกาศทั่วโลกจะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (Haver Analytics, Morgan Stanley Research forecasts) ซึ่งรายได้ของอุตสาหกรรมเหล่านี้มาจาก Consumer TV สัญญาณโทรทัศน์ที่เราดูอยู่ทุกวัน, Consumer Broadband เครือข่ายอินเทอร์เน็ต, Mobile Satellite Services การให้บริการสัญญาณโทรศัพท์, Ground Equipment อุปกรณ์ภาคพื้นดิน และที่สำคัญเลย คือ Satellite Launch ยานขนส่งกระสวยอวกาศ ดาวเทียม การผลิตจรวด เป็นต้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้มีแนวโน้มการบริโภคเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต ที่เราเห็นข่าวออกมาว่า Virgin Galactic ได้เปิดจองที่นั่งโดยสาร “ทัวร์อวกาศ” 600 กว่าที่นั่ง ซึ่งก็มีเหล่าเซเลบ คนดังมากมาย แห่กันไปจอง โดยเปิดจองในราคาประมาณ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อที่นั่ง เป็นงบที่เศรษฐีกระเป๋าหนักสามารถจ่ายได้ไม่ยาก
มาดูกันว่า การขึ้นเครื่องบินอวกาศของแต่ละบริษัทใช้เครื่องอะไรบ้าง ค่าตั๋วโดยสารเท่าไหร่ ? เผื่อสักวันจะได้ไปบินโคจรเที่ยวรอบโลกกับเขาบ้าง ตามไปดูในรูปเลย
โอกาสการเติบโตและความน่าสนใจลงทุนตลาดอวกาศ
1. การใช้เทคโนโลยีความเร็วอินเทอร์เน็ตจากดาวเทียมวงโคจร ที่ SpaceX เริ่มให้ผู้ใช้บริการทดลองใช้ โดยอินเทอร์เน็ตมีความเร็วดาวน์โหลดอยู่ที่ 50-150 เมกะไบต์ต่อวินาที และมีความหน่วงหรือดีเลย์ประมาณ 20-40 มิลลิวินาที ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม
2. เทรนด์การท่องเที่ยวอวกาศ บริษัทหลายเจ้าเริ่มผลิตยานอวกาศ เพื่อตั้งเป้าให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอากาศยานเชิงพาณิชย์บนอวกาศได้
3. เป้าหมายการตั้งถิ่นฐานบนอวกาศ โดย 2 ยักษ์ใหญ่ SpaceX มีเป้าหมายการตั้งถิ่นฐานบนอวกาศ ส่งคนไปดวงจันทร์และดาวอังคาร และการสร้าง “อาณานิคม” บนดาวอังคารภายในปี 2024 ส่วน Blue Origin ต้องการให้จรวดกลายเป็นเครื่องบินที่สามารถพาทุกคนบินไปบนอวกาศ รวมถึงสามารถไปท่องเที่ยวบนดวงจันทร์หรือดาวอังคารได้
4. นโยบายการสร้างสกุลเงินดิจิทัล “มาร์สคอยน์” ของ Elon Musk ซึ่งต้องการให้เป็นเงินตราแลกเปลี่ยนหากมนุษย์ย้ายถิ่นฐานไปอาศัยบนดาวอังคาร หรือดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ
Source: Morgan Stanley, Forbes, Statista, Bloomberg, Robbreport, BusinessInsider, CNBC, SpaceX, Barrons, The Wall Street Journal